เตือน! ซื้อ-ขายสมบัติโบราณ มีโทษหนัก! ปรับ 1 ล้านบาท จำคุกถึง10 ปี

ตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ตรวจค้นบ้านพักผู้ร่วมขบวนการขุดล่าหาสมบัติโบราณ9 จุด ในพื้นที่เชียงใหม่, พะเยา, สุโขทัย และลำปางจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 3 รายตรวจยึดโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ รวมจำนวนกว่า 1,000 ชิ้น

โดยการจับกุมครั้งนี้ ตำรวจได้เบาะแสมาจากกลุ่มผู้อนุรักษ์โบราณวัตถุ ว่ามีกลุ่มบุคคลลักลอบขุด ค้า โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ แล้วมาโพสต์ขายทางเฟซบุ๊ก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อแล้วนำโบราณวัตถุที่ได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สำนักศิลปากร กรมศิลปากร กระทั่งทราบว่าเป็นวัตถุโบราณจริง

ญี่ปุ่นจัดสรรงบ รวบรวม “ต้นฉบับการ์ตูน” อนุรักษ์ไว้เป็นสมบัติชาติ

พบกรุสมบัติอดีตพระอาจารย์คม ฝังดินหลังวัด เงินสด-ทองแท่ง ร่วม 100 ล้าน

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยพฤติการณ์ของขบวนการนี้ืิ จะมีการทำงานออกเป็น 2 ส่วน โดยชุดแรก เป็นกลุ่มที่ออกไปขุดหาโบราณวัตถุตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ผู้ต้องหาจะใช้อุปกรณ์หลัก ๆ คือเครื่องสแกนโลหะ เมื่อพบพื้นที่เป้าหมาย ก็จะทำการขุดหาโบราณวัตถุที่ฝั่งอยู่ตามพื้นดิน

จากนั้นก็จะนำมาขายให้พ่อค้าคนกลาง ซึ่งมีการสร้างเพจเฟซบุ๊กประกาศขาย โบราณวัตถุที่ยึดมาได้ส่วนใหญ่จะเป็น ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับ หรือวัตถุทางศาสนา บางชิ้นมีอายุมากถึง 1,600 ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพ เผยว่า ทำมา 3 ปี มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 200,000 บาท และพบยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท

ด้านนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร บอกว่า ขบวนการซื้อขายและลักลอบขุดวัตถุโบราณเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ถือเป็นการทำลายศิลปะวัฒนธรรมของประเทศชาติ

เพราะวัตถุโบราณบางชิ้น ตรวจพบว่ามีอายุมากกว่า 1,000 ปี แต่ กลุ่มผู้ต้องหานำมาขายในราคาไม่กี่พันบาท แต่หากเทียบมูลค่าแล้วโบราณวัตถุเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญที่จะใช้ศึกษาความเป็นมาประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

พร้อมฝากเตือนไปยังประชาชน ว่าหากพบวัตถุโบราณโดยบังเอิญ แล้วไม่แน่ใจ ก็ไม่ควรเก็บไว้เอง เพราะจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่ควรแจ้งเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร หรือวัฒนธรรมจังหวัดในแต่ละพื้นที่เพื่อให้ช่วยตรวจสอบ

ตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ฉบับแก้ไข พ.ศ.2535 มาตรา 24 ระบุไว้ว่า“โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ซ่อน หรือฝัง หรือทอดทิ้งไว้ในราชอาณาจักร ให้ตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน” และสำหรับผู้ใดที่ลักลอบขุด ค้นหา โบราณวัตถุตามสถานที่ต่างๆ เพื่อนำไปประกาศขาย รวมไปถึงผู้รับซื้อโบราณวัตถุต่างๆ จะถือว่าเป็นผู้กระทำความผิด มีโทษตามกฎหมาย

โดยเฉพาะกรณีผู้ที่ไปลักลอบขุดหาโบราณวัตถุ แล้วไปบุกรุกโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้วและทำให้เกิดความเสียหาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท

ส่วนผู้ที่รับซื้อรับจำนำ โบราณวัตถุที่ได้จากการลักลอบขุดหา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ประกาศฉบับที่ 16 รับมือ “ฝนตกหนัก” จนถึง 6 ก.ย.

ลิงก์ดูสดวอลเลย์บอลหญิง คำพูดจาก เกมสล็อตมาใหม่! ไทย พบ เวียดนาม ชิงแชมป์เอเชีย AVC 2023 วันที่ 4 ก.ย. 66

บีวายดี ประกาศเลิกติดชื่อแบรนด์ Build Your Dreams ที่ฝากระโปรงท้าย